อะไรที่ทำให้คุณเทรดเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ?

 

อะไรที่ทำให้คุณเทรดเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ?

โดย Nial Fuller  

ถ้าคุณมีเงินที่ได้มาอยากยากลำบากอยู่ในบัญชีเทรด และคุณรู้สึกว่าคุณต้องทำกำไรได้จากการเทรด คุณกำลังหลงผิด เหตุผลหลักอย่างแรกที่คุณไม่สามารถเทรดแล้วเลี้ยงตัวเองได้คือ  เหตุผลหลักคือเพราะว่าคุณรู้สึกว่าคุณต้องเลี้ยงตัวเองให้ได้ คุณต้อง All in เงินทั้งหมดที่คุณมีด้วยอารมณ์ของคุณเอง 

แล้วคุณคิดว่าอะไรที่เป็นสาเหตุว่าทำไมคุณไม่สามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้ด้วยการเป็นเทรดเดอร์ คุณอาจจะคิดว่าเพราะว่า คุณไม่ได้ค้นพบระบบเทรดที่มหัศจรรย์ หรือว่าอาจจะเป็นเพราะว่า มันต้องมีความลับบางอย่างที่จะทำให้คุณสามารถเข้าใจความสำเร็จในการเทรด ผมขอย้ำคุณได้เลยที่นี้ว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณอาจจะกำลังคิดตอนนี้  ความจริงที่ยากจะยอมรับคือว่า สิ่งที่ทำให้คุณต้องหยุดและออกจากการเทรดเพื่อเลี้ยงตัวเองคือ ความกดดันตัวเองที่จะต้องทำกำไรให้ได้

ประเด็นสี่ประเด็นที่เราจะพูดถึงคือ 4 ความผิดพลาดที่เทรดเดอร์หลายคนทำ ซึ่งส่งผลก่อให้เกิดความกดดันตัวเองต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น :

1. ชิพ ที่รั่วออกไปเรื่อย ๆ

ในโป๊กเกอร์ ถ้า stack ของคุณทำให้ เงินเริ่มหมดลงเรื่อย ๆ เรียกว่า “bleeding chips” ในการเทรดเหตุการณ์นี้ก็เหมือนกับการที่ไม่มีเงินทุนมากพอที่จะผ่านช่วงเวลาลำบากไปได้ และพอที่จะเห็นว่ากลยุทธ์เราได้ผลเพียงพอในช่วงเวลาเหล่านั้น   

เทรดเดอร์ที่เริ่มด้วยบัญชีเทรดเล็ก ๆ มักจะพยยามเพิ่มความกดดันให้ตัวเองในการสร้างบัญชีเทรดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันจะคอยทำลายตัวเอง ทำให้เกิดการ Over-trade และ เสี่ยงมากเกินไปต่อการเทรด ไม่มีอะไรผิดกับการที่เราเริ่มด้วยบัญชีเทรดเล็ก ๆ และพยายามสร้างบัญชีให้ใหญ่ขึ้น แต่ปัญหามันเกิดตามมาเมื่อเทรดเดอร์ มีความคาดหวังที่เกินจริงและระยะเวลาที่จะใช้มันในการสร้างบัญชีของเขา เมือ่เริ่มคิดอย่างนั้น เกี่ยวกับการเพิ่มขนาดเป็น 2-3 เท่าภายในไม่กี่เดือน ก็เริ่มคิดถึง การออกจากงานในเดือน 2 เดือนเพื่อมาเทรดเต็มเวลา นั่นแทบจะหมายถึงการปิดประตูชนะของคุณ ข่าวดีก็คือ มันไม่ต้องเป็นแบบนั้นทุกครั้ง คุณมีทางเลือก

ถ้าคุณไม่มีเงินทุนมากพอ คุณสามารถคิดได้สองทางดังนี้ :

1. “ฉันเข้าใจว่าฉันไม่มีเงินมากในการเทรดและฉันเข้าใจว่าฉันต้องเทรดด้วย position ที่เล็กกว่านั้น เพราะว่าฉันรู้ว่าถ้าฉันไม่คุมความเสี่ยงของฉันบัญชีของฉันก็จะขาดทุนหมดพอร์ท ซึ่งแย่กว่าการที่ฉันเริ่มด้วยบัญชีด้วยเงินน้อย ๆ เสียด้วยซ้ำไป

หรือ

2. “ฉันรู้ว่า บัญชีของฉันเล็ก แต่ว่าฉันคิดว่า ถ้าฉันสามารถทำกำไรครั้งใหญ่ ๆ ได้และสามารถเพิ่มบัญชีได้ซัก 2 -3 เท่า ฉันจะเทรดและจัดการความเสี่ยงของฉันอย่างเหมาะสม”

ตอนนี้ คุณอาจจะรู้แล้วว่า สิ่งแรกที่เร่าต้องคิดคืออันแรก แต่ส่วนใหญ่เทรดเดอร์จะคิดใบแบบที่ 2 มากกว่า โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่มีบัญชีขนาดเล็ก ความยั่วยวนของการพยายามสร้างบัญชีให้เร็ว นั้นเป็นสิ่งที่ยากในการที่จะเอาชนะ แต่ตามที่ผมพูดในบทความเรื่อง Tortoise vs. The Hare article  จากสัปดาห์ที่แล้ว การเติบโตอย่างช้า ๆ จะทำให้เราชนะการแข่งขันมาราธอนในการเทรด ไม่สำคัญว่าคุณจะคิดหรืออยากจะเชื่อหรือไม่แต่มันเป็นจริงอย่างนั้น

ดังนั้น ถ้าคุณมีเงินน้อย คุณต้องยอมรับความจริงและเทรดอย่างใจเย็น ด้วยความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณสามารถสร้างบัญชีขนาดเล็กอย่างประสบความสำเร็จได้ แต่ว่ามันต้องใช้เวลา และยิ่งคุณพัฒนาลักษณะนิสัยในการเทรดของคุณมากเท่าไหร่ ทำให้การเทรดของคุณง่ายขึ้นและยิ่งทำกำไรให้คุณมากขึ้น ซึ่งการที่เรามีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จะทำให้มันทำลายบัญชีเทรดและทำลายความสัมพันธ์ในชีวิตส่วนตัวของคุณไปด้วย 

2. เงินร้อน

อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความกดดันให้กับเทรดเดอร์มากกว่าการที่มีทุนน้อยข้างบนคือ การที่เทรดเดอร์เทรดด้วยเงินร้อน ด้วยเงินร้อน มันหมายถึงเงินที่คุณไม่สามารถจะเสี่ยงได้ในตลาดและยิ่งกว่านั้นมันไม่ได้เป็นของคุณเอง ผมรู้ว่าเทรดเดอร์หลาย ๆ คนเริ่มเทรดด้วยการกู้เงินจากบัตรเครดิต และนั่นมันยิ่งบ้ากันไปใหญ่

การเทรดเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณจะพิจารณาว่าจะใช้เงินกู้มาเทรด  การเทรดด้วยเงินร้อนหมายความว่าคุณต้องเกี่ยวข้องกับอารมณ์มากขึ้นในกรณีที่คุณต้องเทรดในตลาดที่เสี่ยงเพราะคุณรู้ว่าการสูญเสียเงินนั้นจะทำให้คุณแย่  บ่อยครั้ง ที่ผมได้อีเมลล์จากคนเหล่านั้นที่เทรดด้วยเงินร้อนในลักษณะนี้

ถ้าคุณไม่สามารถที่จะยอมรับความเสี่ยงด้วยเงินจริงในตลาด คุณต้องเป็นลูกผู้ชายพอและยอมรับความจริงขอนี้และไม่เทรดเพื่อเลี้ยงตัวเองจนกว่าความจริงนี้จะเปลี่ยน คุณสามารถเรียนรู้ว่าจะเทรดได้อย่างไรในการเทรด Demo แต่ว่าการเทรดด้วยเงินร้อนเป็นเหมือนกับการราดน้ำมันแล้วจุดไม้ขีดตามลงไปเพราะว่าคุณแทบจะรับประกันได้เลยว่ามันจะถูกเผาไหม้ไปในตลาด

3. ความรู้สึกคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ

มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลยสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ประสบความล้มเหลว จากการที่พวกเขาเริ่มต้นธุรกิจด้วยการที่จะประสบความสำเร็จธุรกิจ ลองคิดถึงเจ้าของร้านอาหารที่ลงทุนเป็นเงินเก็บที่เขาเก็บออมมาตลาดชีวิต และเริ่มกิจการร้านอาหารที่อายุ 55 เขากำลังอยู่ใกล้วัยเกษตร และลงทุนเงินทั้งหมดในร้านอาหารและคิดว่าเป็นทางที่ดีที่จะได้เงินเพิ่มถ้าเขาอายุมากขึ้น เมื่อธุรกิจมาถึงจุดที่ยากลำบาก เขาจะมีแต่ปัญหาที่จะต้องขาดทุนทุกเดือน และ ความกดดันจะเพิ่มเข้ามามาก  ทำไม? เพราะว่าเขาบีบพื้นที่ไม่ให้ตัวเองได้ถอยได้เลย เขาใส่เงินทั้งหมดที่เขามีลงในธุรกิจเพียงอันเดียว และวางตำแหน่งของเขาราวกับว่า ถ้าเกิดธุรกิจพังก็หมายถึงเขากำลังล้มละลาย 

เหตุการณ์ข้างบนนี้เกิดมากมายในธุรกิจร้านอาหาร และมันก็เกิดขึ้นมากมายในการเทรดเช่นเดียวกัน 

ถ้าคุณตื่นขึ้นมาตอนเช้าและคิดว่า คุณจะทำหรือไม่ก็ตายไปเลย ในฐานะที่นี่เป็นแหล่งความมั่นคงทางการเงินเดียวของคุณ คุณก็กำลังสร้างแรงกดดันอย่างใหญ่หลวง ที่แม้แต่นักเทรดที่มีวินัยมากที่สุดและอดทนมากที่สุดก็ไม่สามารถทำได้ 

เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจะเข้าใจจุดนี้เพราะว่า พวกเขาเข้าใจว่าการยอมรับแรงกดดันนี้ พวกเขาจะหาทางที่จะระบายความกดดันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขารอที่จะเริ่มเทรดจนกว่าพวกเขามีเงินที่จะเสี่ยงได้ และไม่ได้เทรดมันอย่างใช้อารมณ์ หรือ อาจจะหมายถึงพวกเขาคิดอย่างเป็นจริงมากขึ้นว่าการสร้างบัญชีต้องใช้เวลาในการสร้าง และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม มีวินัย ไม่ว่าอะไรก็ตามมืออาชีพ ประสบความสำเร็จเพราะว่าพวกเขาหาทางกำจัดแรงกดดันเหล่านี้ที่ทำให้พวกเขาสำเร็จได้

คุณต้องเทรดจากการที่มีจิตใจที่โปร่งใส ไม่มีเรื่องของเงินที่คุณต้องกดดันเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณสามารถทำได้โดยการทำตามแผน เหมือนกับงานอื่นที่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของคุณได้และนอกจากนี้ยังสามารถทำให้คุณมีเงินเก็บก้อนเล็ก ๆ ได้ การเทรดนั้นเป็นสิ่งที่เสี่ยง และ มันดึงดูผู้คนเข้าเทรดผู้ซึ่งมีเงินอยู่ในดวงตา ลุกวาวเมื่อเห็นเงิน และคุณต้องมั่นใจว่าคุณไม่ใช่หนึ่งในคนเหล่านั้น  ถ้าคุณไม่มีการกำหนดลักษณะจิตใจของคุณในการเทรดมาก่อน อย่าพึ่งเทรดอย่าพึ่เงทรดเงินจริง จนกว่าคุณจะมีสภาพจิตใจที่พร้อมต่อการเทรด 

4. ความรู้หรือประสบการณ์ไม่เพียงพอ

ท้ายที่สุด สิ่งที่ปกติที่สุดที่เทรดเดอร์ชอบทำคือการเทรดในตลาดทั้ง ๆ ที่ไม่มีประสบการหรือความรู้มาก่อน

เมื่อเราพยายามทำอะไรซักอย่างโดยไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ สิ่งที่ตามมาคือ ความกดดันจะเกิดขึ้นในใจเรา เพราะว่า สิ่งเหล่านนั้น มันยาก ถ้าเราไม่มีความรู้หรือประสบการณ์มาก่อน  ตัวอย่างเช่น การพยายามทำการผ่าตัดโดยไม่มีการฝึกเป็นแพทย์ผ่าตัดมาก่อน คุณย่อมรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง ขณะที่แพทย์ผ่าตัดที่ได้รับการฝึกหรือว่ามีประสบการณ์จะรู้สึกดดันน้อยมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องต้องไปเรียนเป็นเวลานานมาก กว่าจะได้เป็นหมอ และได้รับการฝึกจากคนที่มีประสบการณ์ก่อนที่จะทำการผ่าตัดเอง คุณจะไม่อยากเป็นหมอที่ไม่มีประสบการณ์หรือนักบินที่ไม่มีประสบการบนเครื่องบินที่คุณขับแน่นอน

เช่นเดียวกัน เทรดเดอร์ที่พยายามเทรดด้วยเงินจริง โดยการไม่มีการฝึกอย่างถูกต้อง มักจะรู้สึกกดดันและถ้าพวกเขาได้รับการฝึกอย่างถูกวิธีเป็นเวลา 3- 6 เดือนในการเทรด Demo เทรดเดอร์หลาย ๆ คนพยายามที่จะเทรดไปด้วยเรียนรู้ไปด้วย ซึ่งการนี้จะทำให้พวกเขานำไปสู่หายนะ ผมได้รับอีเมลล์เกือบทุกวันที่บอกผมว่า หลังจากที่พวกเขาได้ทำกำไรในการเทรดในตลาดพวกเขาจะได้บทเรียนในตลาดและเรียนรู้ที่จะเทรดอย่างปกติ การเทรดนั้นไม่ได้แตกต่างจากอาชีพอื่น ที่คุณต้องมีประสบการณ์และการศึกษาก่อน มันยากที่คุณจะบอกว่าคุณจะเข้าเทรดในตลาดโดยมีประสบการณ์เพียงน้อยนิด และเริ่มทำกำไรได้ทันที เช่นเดียวกับการที่คุณจะไม่เหยีบเข้าห้องนักบินโดยที่ไม่มีประสบการณ์ในการบินมาก่อน 

การศึกษาหาความรู้เป็นสิ่งแรกที่จะช่วยแก้ไขปัญหาที่ว่าจะทำให้คุณเทรดแล้วมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เพราะว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิต ถ้าคุณอยากจะเดินทางที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาความกดดันในชีวิตการเทรดของคุณลองมาดูคอร์สอนเทรดของผม Trading Courses

 

Comments